วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


กู้ Uinvest ดอกแพงใครจะกู้ ?? 
ธนาคารมีทำไมไม่ไป ?!? ธุรกิจจริงหรือบังหน้า
Uinvest ต้องการเป็นที่หนึ่งของการลงทุนทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ต้องการให้ทั่วโลกยอมรับกับนวัตกรรมใหม่ของการลงทุนที่ Uinvest ได้สร้างขึ้น ปัจจุบัน Uinvest ถือว่าเป็นทางเลือกของนักลงทุนอีกทางหนึ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก แต่ยังคงมีนักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนกับ Uinvest แล้วยังมีข้อสงสัย และความระแวงติดอยู่ภายในหัวตลอดเวลาซึ่งทำให้ Uinvest ยังไม่สามารถเป็นการลงทุนที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นได้ 100% วันนี้ Uinvest จึงอยากเล่าถึงรูปแบบธุรกิจที่กำลังทำอยู่ เพื่อให้นักลงทุนทุกท่านได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของความเป็น Uinvest หนึ่งเดียวที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนดีอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่ HYIP ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ไม่เป็นการหลอกลวง
ทุกๆคนยังคงสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไรที่เจ้าของกิจการจะจ่ายดอกเบี้ยแสนแพงต่อเดือนและมีกำไรในการดำเนินธุรกิจ แล้วยังไม่มีผิดนัดชำระหนี้อีกด้วย ทำไมทุกอย่างของ Uinvest มันเหมือนทางที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบไปหมดเนี๋ย !!!

มุ่งเน้นตลาดเกิดใหม่
นักลงทุนทุกท่านคงอยากทราบว่า จะมีธุรกิจไหนที่ยอมจ่ายดอกเบี้ยแพงแสนแพงให้ Uinvest ถ้าไม่ใช่พวกโง่ก็บ้า หรือไม่ Uinvest ก็สร้างภาพเอาธุรกิจมาบังหน้าจริงๆก็เป็นแชร์ลูกโซ่เอาเงินต่อเงินแน่ๆ
  1. Uinvest ถือกำเนิดจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในปี 2008 ณ ตอนนั้นที่ประเทศ Ukraine ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ หยุดปล่อยกู้รายย่อยและภาคธุรกิจ เลยทำให้เศรษฐีที่ Ukraine มีโอกาสได้ปล่อยเงินทุนให้กับเจ้าของกิจการและสร้างรายได้จากดอกเบี้ยอย่างมหาศาล
  2. หลังจากเปิดตัวไม่นาน Uinvest ได้ขยายธุรกิจไปทั่วฝั่ง ยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ Ukraine (เนื่องจากมีการแนะนำปากต่อปากจากเจ้าของกิจการเลยทำให้ Uinvest เป็นแหล่งเงินทุนที่โด่งดัง) ในปีต่อมา Uinvest สร้าง GUN เป็นบริษัทย่อยเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ขยายฐานธุรกิจและเงินทุน ให้ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก
  3. หากนักลงทุนทุกท่านลองพิจารณาบริษัทที่มีการกู้เงินกับ Uinvest ทั้งหมด 80 กว่าบริษัท จะเห็นได้ว่าบริษัทเหล่านั้นมาจากธุรกิจที่อยู่ในประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือเป็นประเทศเกิดใหม่ ไม่ใช่!! ประเทศที่พัฒนาแล้ว สาเหตุนี้เป็นเพราะ SME ในประเทศที่เกิดใหม่หรือด้อยพัฒนามีโอกาสในการขยายกิจการได้สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ในระหว่างที่ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะเน้นการระดมเงินทุนไปที่ตลาดหลักทรัพย์มากกว่าการหาเงินทุนจากแหล่งอื่น
แล้วยังไง ?!? ไปปล่อยกู้ประเทศด้อยพัฒนา ประเทศเกิดใหม่ แล้วเจ้าของกิจการจะสามารถจ่ายดอกแพงได้ยังไง ?!? ทำไมไม่ไปกู้ธนาคาร ดอกเบี้ยถูกๆ  โอกาสเติบโตหรือขยับขยายมีมากกว่าอีก !!

ขาดแหล่งเงินทุน

  1.  นักลงทุนที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะคุ้นเคยและเคยชินกับการกู้เงินจากสถาบันการเงินเป็นหลัก และมองว่าการกู้เงินผ่านสถาบันเป็นเรื่องง่าย แต่!!! สิ่งที่ประชากรในประเทศเหล่านี้ไม่รู้คือ ความขาดแขลนของแหล่งเงินทุนในประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือประเทศเกิดใหม่ นั่นเป็นเพราะระบบการทำงานและการจัดการของสถาบันการเงินของประเทศเหล่านี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการกู้เงิน เต็มไปด้วยการคอรัปชั่น และกฏเกณฑ์ที่ทำให้ธุรกิจ SME ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะคิดว่าสถาบันการเงินคือหนึ่งในแหล่งเงินทุนที่จะช่วยเหลือกิจการเค้าได้ ดังนั้น Uinvest เป็นโอกาส เป็นตัวเลือกที่จะให้เจ้าของกิจการเหล่านี้มีโอกาสได้ขยายกิจการ ทำธุรกิจได้อย่างมีความสุข และอาจเป็นโอกาสที่พลิกชีวิตเค้าได้ !!
  2. นักลงทุนที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมองว่าสถาบันการเงินคอยช่วยเหลือให้การสนับสนุนธุรกิจหรือกิจการใดๆที่มีแผนธุรกิจที่ดี มีความเป็นไปได้ในการเติบโตในอนาคต และหรือธุรกิจเกิดใหม่ที่มีไอเดียดีๆ แต่ในทางกลับกันสถาบันการเงินของประเทศที่ด้อยพัฒนา หรือประเทศเกิดใหม่ถึงแม้จะมีไอเดียดี แผนการตลาดเลิศ การเข้าถึงสถาบันการเงินหรือแหล่งเงินทุนเป็นเรื่องที่ยาก ที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ที่ SME จะอาจเอื้อม แต่เหล่าบรรดา SME ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เจ้าของกิจการเหล่านี้ได้นำไอเดียไปให้บริษัทรับจัดหาเงินทุน ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีลูกค้าที่มีเงินเป็นจำนวนมากอยู่ในมือ เพียงแค่นำแผนธุรกิจส่งมอบให้บรรดาฐานลูกค้า ทำการนัดหมายให้เจ้าของกิจการได้พบปะกับแหล่งเงินทุน และทำสัญญาตกลงการกู้กัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแบ่งกำไรให้เจ้าของเงินทุน ดังนั้นเจ้าของกิจการจ่ายมากกว่า 10% ต่อเดือนแน่นอน หรือบางธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงให้ส่วนแบ่งถึง 40% ของกำไร นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำไมธุรกิจที่โด่งดังและเติบโตส่วนใหญ่มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นจริง แต่!!!! เจ้าของกิจการเหล่านั้นจะ มีกำไรเพียงพอที่จะจ่ายได้ยังไง ?!? ประเทศก็ด้อยพัฒนา อำนาจในการจับจ่ายน้อยกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วแน่นอน …..

  1. ข้อดีของกิจการที่อยู่ในประเทศที่ด้อยพัฒนาคือ ต้นทุนต่ำค่าแรงต่ำมาก ค่าครองชีพต่ำ ค่าเช่า ค่าบริหารจัดการ โดยเฉพาะประเทศเหล่านี้ไม่มีกฏเกณฑ์ข้อบังคับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของพนักงาน และสวัสดิการ จึงทำให้เป็นข้อได้เปรียบที่เจ้าของกิจการในลักษณะเดียวกันในประเทศที่ด้อยพัฒนาจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
ตัวอย่าง
Etanya จากประเทศมาเลย์เซีย ทำบริษัทโรงกลั่นมะพร้าว เค้าต้องการเงินจำนวน $10,000 เพื่อขยายกิจการ ปัจจุบันมีพนักงาน 20 คน และต้องการเงินเพื่อนำมาซื้ออุปกรณ์ เครื่องจักรสำหรับการขยายฐานการผลิตของออร์เดอร์ล๊อตใหญ่ที่บริษัทได้ประมูลมาได้ หาก Etanya ได้รับเงินก้อนนี้จะทำให้เค้าสามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ได้สูงกว่า 10% ต่อเดือน แต่เนื่องด้วยบริษัทไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้เลยได้หันมาหา Uinvest และเสนอจ่ายดอกเบี้ย 13% ต่อเดือน Etanya สามารถจ่ายดอกเบี้ยแพงขนาดนี้ได้ เพราะค่าแรงและค่าเช่าถูกมาก ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุดสำหรับเค้าคือค่าอุปกรณ์และเครื่องจักร หาก Etanya ได้รับเงินก้อนที่ เค้าจะสามารถสร้างรายได้ถึง $50,000 นั่นหมายถึง 400% ต่อปีที่เค้าจะทำกำไรได้จากเงิน $10,000 หากลองคำนวณและคิดกันง่ายๆ $10,000 จ่าย 13% ต่อเดือน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดต่อปีคือ $15,600 ต่อปี แต่บริษัทสามารถสร้างรายได้ $50,000 จะยังคงเหลือกำไรตกถึงเจ้าของกิจการมากถึง $34,400 หรือคิดเป็น 244% ของยอดเงินกู้ จะเห็นได้ว่า เงินก้อนนี้สามารถเปลี่ยนรายได้ของบริษัทนี้ให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะทำได้ รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และค่าเช่ายังคงที่ ดังนั้น Uinvest จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญให้กับเจ้าของกิจการผู้นี้ ถึงแม้ดอกเบี้ยจะสูงมากถ้าเปรียบกับสถาบันการเงิน แต่โอกาสที่จะได้รับเงินก้อนนี้จากสถาบันการเงินนั้นน้อยกว่า Uinvest มาก

หากเป็นอย่างนี้จริง ธุรกิจ Uinvest ก็เป็นธุรกิจจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ที่ช่วยเหลือทั้งเจ้าของกิจการให้มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และในขณะเดียวกัน ช่วยเหลือนักลงทุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน …. อะไรมันจะ perfect ไปหมด มันใช่โลกแห่งความจริงหรอ ?? เจ้าของกิจการเหล่านี้จะไม่เบี้ยวบ้างเลยหรือไง??

การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ !!
  1. หากเราจะลดความเสี่ยงในการลงทุน เราทุกคนต้องรู้จักวางแผน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งที่เราไม่คาดคิด สิ่งที่เราคาดไม่ถึง จะทำให้แผนการของเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ สิ่งเหล่านี้คือ ความเสี่ยง เจ้าของกิจการจะมีการวางแผนการเงิน และบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปตามแผนการที่ได้ตกลงกับทาง Uinvest ไว้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเรื่องเงินๆทองๆหรือการคอรัปชั่น มักเกิดขึ้นเสมอกับประเทศที่ด้อยพัฒนาหรือประเทศเกิดใหม่ คือ 1.โดนโกง 2.ต้องให้เงินใต้โต๊ะ 3.ต้องจ่ายส่วยให้กับผู้ดูแลทางด้านการค้า 4.ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย 5.ต้นทุนเพิ่มขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญที่มีการประเมินจาก Uinvest เบื้องต้น และได้บวก % ควรเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปแล้ว แต่หากเจ้าของกิจการประสบเหตุที่ไม่คาดคิดและเกิดค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่ประเมินไว้ อาจทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ Uinvest เลยไม่ปฏิเสธว่ามีเจ้าของกิจการ 5-7% ที่ผิดนัดชำระหนี้ แต่ด้วยประสบการณ์การการบริหารและจัดการด้านการเงิน Uinvest จะให้เจ้าของกิจการมีการใช้ 1.เงินสด 2.ทรัพย์สิน 3.เข้าถือหุ้น เป็นการค้ำประกันเงินกู้ ตามสัตส่วนที่ได้ตกลง
แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริง Uinvest บริหารจัดการยังไง อย่างนี้มันก็กลับไปสู้เงินต่อเงินหรือเปล่า ?!?

  1.  การบริหารจัดการของ Uinvest ไม่สามารถเป็นที่เปิดเผยได้ เสมือนกัน KFC วันนี้เดินเข้าไปขอซื้อสูตร KFC คงไม่มีใครขายคุณเช่นกัน ดังนั้น วิธีการบริหารจัดการของ Uinvest เปรียบเสมือนเคล๊ดลับที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ทราบได้ เพียงแต่จะต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Uinvest สามารถบริหารจัดการธุรกิจที่ผิดนัดชำระหนี้โดยที่ให้นักลงทุนเสียหายน้อยที่สุดคือ 1.หากมีการผิดนัดชำระหนี้ Uinvest จะประเมินสินทรัพย์ค้ำประกันของเจ้าของกิจการ และสัญญาการกู้ออกมาเป็นตัวเงิน และแปลงเป็นราคาหุ้นที่รับซื้อคืน ** หากกิจการใดๆที่ไม่มีการผิดนัด ราคาเปิดขายและราคาซื้อคืนจะเป็นราคาเดียวกัน หากกิจการใดๆที่มีปัญหาทางด้านการเงินและจำเป็นต้องคืนเงินก่อนกำหนด ราคาเปิดขายและราคารับซื้อคืนจะไม่เท่ากัน แต่ Uinvest จะจำกัดความเสี่ยงให้นักลงทุนเท่าที่วงเงินคำประกันทำได้ ….. ไม่ต่ำกว่า 80-90% ของราคาหุ้น 2.ทำการ Refinance ยอดเงิน ส่วนใหญ่จะเกิดกับธุรกิจที่ครบกำหนดระยะเวลาแล้ว มีการชำระดอกเบี้ยตรงเวลาแต่ยังไม่สามารถจ่ายเงินต้นได้หมด ดังนั้น Uinvest จะทำการเจรจา และยืดอายุการผ่อนชำระเงินออกไป
ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่คาดว่าจะทำให้นักลงทุนคลายความสงสัยกับคำถามที่ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา ถึงแม้ว่า Uinvest จะจ่ายเงินตรงเวลามาเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถคลายความสงสัยกับดอกเบี้ยแสนแพงเหล่านี้ได้

ตัวอย่างจาก Advance Agent ซึ่งเป็นเจ้าของ Project ใน Uinvest ไม่ต่ำกว่า 5 Project
== ตัวเลขจะเป็นตัวเลขสมมติทั้งหมดเพื่อป้องกันข้อมูลของบริษัท รวมถึงง่ายต่อการเข้าใจ ==
ธุรกิจที่ 1
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการท่านนี้ตกลงจ่าย $15,000 สำหรับดอกเบี้ย + $4,200 - $4,500 สำหรับเงินต้น หรือคิดเป็น $19,200 - $19,500 ต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 2 ปี

ธุรกิจที่ 2
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการท่านนี้ตกลงจ่าย $60,000 ในเดือนแรก และยอดเงิน $17,000 ต่อเดือนตั่งแต่เดือนที่สองจนครบกำหนดสัญญา

ธุรกิจที่ 3
ต้องการเงินต้น $100,000 ตกลงจ่าย 15% ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี ดังนั้นดอกที่ต้องจ่ายทั้งหมดคิดเป็น $15,000 ต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของกิจการต้องจ่ายเงินทั้งหมด $360,000 สำหรับดอกเบี้ย + $100,000 สำหรับเงินต้น รวมทั้งหมด $460,000  เจ้าของกิจการให้ที่ดินของโรงงานกับ Uinvest ซึ่งประเมินราคาตลาด ณ เวลานั้นคือ $100,000 ซึ่งมีโรงงานพร้อมโครงสร้างอยู่บนที่ผืนนั้น และมีแนวโน้มค่าที่แพงขึ้นทุกปี การจ่ายรายเดือนคือ $15,000 ต่อเดือน


+++ ไม่ใช่ทุกธุรกิจสามารถกู้เงินกับ Uinvest ได้ ต้องเป็นธุรกิจที่มีจังหวะและโอกาสที่เหมาะ และมีทรัพยากรที่เอื้ออำนวยเท่านั้น
+++ สัญญาการกู้ และเงื่อนไขข้อตกลงในการชำระหนี้ของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่ Uinvest ได้ทำการประเมินไว้
+++ ทุกบริษัทต้องเริ่มชำระดอกเบี้ยให้กับ Uinvest ตั่งแต่เดือนแรกที่ได้รับเงินก้อนนั้นๆไป
+++ หากบริษัทใดๆต้องการเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์ หรือทรัพย์สินที่จับต้องได้ Uinvest จะไม่มีการให้เงินสดเจ้าของกิจการไปดูและเอง สินทรัพย์เหล่านั้น Uinvest จะเป็นเจ้าของและจะเป็นผู้ดำเนินการให้เจ้าของกิจการทั้งหมด

ทั้งหมดเป็นรายละเอียดจาก Uinvest ที่ให้ข้อมูลมา ทาง RM และ Agent ของประเทศไทยมีหน้าที่เพียงให้ข้อมูลจากบริษัทแก่นักลงทุนในประเทศไทยเท่านั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจการลงทุนของนักลงทุนใน Uinvest และ มิได้มีส่วนในการระดมเงินลงทุนใดๆ  RM และ Agent มีหน้าเพียงให้ความสะดวกสบาย ให้ข้อมูล และสอนวิธีการใช้งานของ Uinvest เท่านั้น !!

แปลและเรียบเรียงโดย คุณพลอย RM THAILAND

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีการซื้อหุ้น Uinvest อย่างละเอียด

วิธีการซื้อหุ้น Uinvest


add fund เข้าบัญชี (Balance)   วิธีการ add fund


เลือกหุ้นที่ต้องการลงทุน











ตรวจสอบหุ้นหลังทำรายการ



วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิธีการทำกำไรจากการลงทุน

ซื้อหุ้นปันผล

รายรับส่วนแรก  >> ปันผลรายเดือน (ค่าธรรมเนียม 10%)



หลังจากรับปันผล หากหุ้นมีราคาที่ดี ให้เสนอขายเพื่อรับกำไรส่วนต่าง

การเสนอขายควรดูแนวโน้มการขึ้นลงของราคาประกอบการตัดสินใจตั้งราคาขาย

ค่าธรรมเนียมการขายหุ้น = 1% + $1
ราคาหุ้นขณะซื้อ $810 ราคาทีเสนอขาย $888  เสียค่าธรรมเนียม ($880*1%) + $1 = $9.8 


กำไรจากการซื้อหุ้น = ปันผล + เก็งกำไร
(137-13.7) + ((888-9.88)-810) =  $191.4





















วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Monthly income @ Uinvest 


HOW IT WORK & FAQ
Register >>> https://uinvest.com.ua/?amigosid=21600





STEP 1 

Create  your account.

Click    ตรงนี้เลยครับ  ---->    Register now     






* Active Gold Balance ให้เลือก No นะครับ 
 หลังจากลงทะเบียน คุณจะได้รับ e-mail  
    - User name และ Password หลังจากได้รับแล้ว อย่าลืมเปลี่ยน password ด้วยนะครับ (จด pinไว้ด้วย สำคัญมาก เพราะใช้สำหรับแก้ไขข้อมูลส่วนตัว)
    - link แนะนำของคุณ   




STEP 2 

Choose and allocate money to investment project(s) you are interested in.

 หุ้นที่ผมซื้อตัวแรก คือ Family Entertainment Complex  



   - ราคาหุ้น เป็นราคาเสนอขายนะครับ   
   - หากต้องการถือหุ้นตัวนี้ ราคา $191.99 ครับ    
   - ปันผลต่อเดือน $27    
   - จำนวนหุ้นที่เสนอขายจากผู้ถือหุ้นขณะนี้  67 หน่วย   
   - สถานะ ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น   



 เข้ามาดูรายละเอียดหุ้นตัวนี้กันครับ  

    - ด้านซ้ายเป็นรายชื่่อผู้ถือหุ้นที่เสนอซื้อหุ้นตัวนี้ $183.50 คุณสามารถเสนอราคาเสนอซื้อที่สูงกว่าเท่านั้นครับจึงจะมีสิทธิ์ซื้อเป็นลำดับแรก คือ หากคุณต้องการเสนอซื้อหุ้นตัวนี้ ต้องเสนอมากกว่า $183.50
    - ด้านขวาเป็นรายชื่อผู้เสนอขายหุ้นตัวนี้ $191.99 เช่นเดียวกัน เมื่อคุณถือหุ้นตัวนี้อยู่ หากคุณเสนอขาย ต้องเสนอให้น้อยกว่า $191.99 จึงจะมีสิทธิขายได้ในลำดับบแรก 
    - หากคุณต้องการซื้อหุ้นตัวนี้ทันที คุณต้องซื้อในราคา $191.99  เช่นเดียวกับการขาย หากคุณต้องการขายหุ้นนี้ในทันที คุณขายได้ในราคา $183.50
    - ราคาซื้อ-ขาย ขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้น   



 วิธีการลงทุน   

    -  คุณต้องมี เงินในระบบ ซึ่งจะอยู่ใน  your balance โดยการเติมเงิน(add fund) จาก LR 
    -  เริ่มด้วย click Invest NOW   
    -  click buy    
    -  รอปันผลครับ ระหว่างนี้คุณสามารถดูแนวโน้มและซื้อขายหุ้นได้ตลอดเวลาครับ    







STEP 3 

Start  getting you profit!


  เวลา 1 เดือนผ่านไป ปันผลมาแล้วครับ    

      - ระบบหักค่าดำเนินการ 10%   
      - หุ้นตัวนี้ปันผล $27 - 10% = 27-2.7 = $24.3   

สำหรับการขายหุ้น มีค่าธรรมเนียม 1% ของราคาขาย +$1
ตัวอย่าง
      ขายหุ้นได้ในราคา $200
      ค่าธรรมเนียม = $2($200*1%) + $1 = $3














THITI SUPPARATWATTANAKUL
Tel : 0816092779
Skype : thiti.sup